หลักเกณฑ์การตั้งชื่อตามทักษา

คำว่า ทักษา หมายถึง
ดาวพระเคราะห์ ๘ ดวง คือ
อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์
พฤหัสบดี ราหู ศุกร์
ตามโครงสร้างหลักในภาพ

และโบราณาจารย์ได้กำหนดสระ
และพยัญชนะประจำดาว
พระเคราะห์ทั้ง ๘ ดวง ดังนี้

อาทิตย์ คือ สระ
(อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ)

จันทร์ คือ ก ข ค ฆ ง

อังคาร คือ จ ฉ ช ซ ฌ ญ

พุธ คือ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ

เสาร์ คือ ด ต ถ ท ธ น

พฤหัสบดี คือ บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม 

ราหู คือ ย ร ล ว

ศุกร์ คือ ศ ษ ส ห ฬ

นอกจากนั้น ได้กำหนดคำว่า
บริวาร อายุ เดช ศรี มูละ
อุตสาหะ มนตรี กาลกิณี  ขึ้นมาอีกด้วย
และให้ความหมายของแต่ละคำไว้ดังนี้

บริวาร หมายถึง
บุตร สามี ภรรยา ข้าทาส ชายหญิง
รวมทั้งคนที่ต้องให้ความอุปการะ
ภายในครอบครัวด้วย

อายุ หมายถึง
ชีวิตความเป็นอยู่
ตลอดจนวิถีทางแห่งการดำเนินชีวิต

เดช หมายถึง
อำนาจวาสนา เกียรติยศ
ชื่อเสียง ตำแหน่งหน้าที่การงาน
ตลอดจนการศึกษาเล่าเรียน
ความรักใคร่ ความเกรงกลัว

ศรี หมายถึง
สิริมงคล ความรุ่งเรือง
ความงาม ความเจริญ
หลักทรัพย์สิน
เงินทอง ของใช้สอย
โชคลาภที่ได้มา

มูละ หมายถึง
หลักทรัพย์สินเดิม
ที่เป็นมรดกตกทอดมา
และมีอยู่ในปัจจุบัน
ตลอดฐานะของญาติพี่น้องคนใกล้ชิด

อุตสาหะ หมายถึง
ความขยันหมั่นเพียร การทำงาน
ผลสำเร็จจากการงาน
การมีความคิดสร้างสรรค์ ทิฐิมานะ

มนตรี หมายถึง
ผู้อุปถัมภ์บำรุง
ผู้ให้ความช่วยเหลือ
เช่น บิดามารดา
ครู อาจารย์

กาลกิณี หมายถึง
ความชั่วร้าย ศัตรู
คู่อาฆาต คนไม่ถูกกัน
ความไม่ดีไม่งาม
อุปสรรคสิ่งขัดขวางนานัปการ

ในการตั้งชื่อตามหลักทักษานั้น
เพศชายควรใช้
อักษรวรรคเดช นำหน้าชื่อ 
เพศหญิงควรใช้
อักษรวรรคศรี นำหน้าชื่อ
ไม่ควรใช้สระและพยัญชนะ
ที่เป็นกาลกิณี
ในของแต่ดาวพระเคราะห์

ในแต่ละดวงใช้ตรงตามชื่อ
ในแต่ละวัน
ยกเว้นดาวพุธใช้
กับวันพุธกลางวัน
และดาวราหูใช้
กับวันพุธกลางคืน

ที่พูด ๆ มา สรุปด้วย
แผ่นสุดท้ายนี้